Medxcheck

ไข้หวัดใหญ่ อาการเป็นยังไงบ้าง ดูแลตัวเองอย่างไรถ้าไม่อยากไปโรงพยาบาล

หลายคนอาจจะเข้าใจว่าโรค "ไข้หวัดใหญ่" มักจะมีการระบาดในช่วงหน้าฝนเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วโรคนี้สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา
flu

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Table of Contents

ไข้หวัดใหญ่ อาการเป็นยังไงบ้าง ดูแลตัวเองอย่างไรถ้าไม่อยากไปโรงพยาบาล

คุณกำลังเป็นไข้หวัดใหญ่หรือเปล่า ตรวจเช็กได้จากอาการต่อไปนี้ พร้อมวิธีการรักษาแบบไม่ต้องไปรพ.

 

หลายคนอาจจะเข้าใจว่าโรค “ไข้หวัดใหญ่” มักจะมีการระบาดในช่วงหน้าฝนเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วโรคนี้สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา เพราะโรคนี้เกิดจากแพร่กระจายของเชื้อไวรัสผ่านทางสารคัดหลั่งต่างๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วย รวมถึงการสัมผัสกับเชื้อโรคแล้วขยี้ตา หรือหยิบจับอาหารเข้าปากโดยไม่ได้ล้างมือ หากไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันมาก่อน หรือร่างกายอ่อนแอมากๆ ก็มีโอกาสจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ มีอะไรบ้าง?

ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเริ่มแสดงอาการภายใน 1-3 วัน โดยจะมีอาการที่สามารถสังเกตได้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้

  • มีไข้สูงตั้งแต่ 38-40 องศา
  • มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง
  • ปวดตามข้อและกล้ามเนื้อ บางรายอาจพบอาการปวดเมื่อยทั้งตัว
  • อ่อนเพลียมาก หมดแรงแบบฉับพลัน
  • รู้สึกเบื่ออาหาร และคลื่นไส้
  • เจ็บคอ ร่วมกับมีอาการไอแห้ง
  • คัดจมูก อาจพบน้ำมูกใสๆ ไหลออกมาร่วมด้วย

 

ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการดังกล่าวประมาณ 2-4 วันแล้วจะค่อยๆ ดีขึ้นเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์

จะรู้ได้ยังไง ว่ามีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หรือเปล่า?

โดยปกติแล้ว ภาวะแทรกซ้อนมักจะเกิดขึ้นในกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว อาการที่พบบ่อยๆ ได้แก่

  • ปวดศีรษะอย่างรุนแรง กินยาแก้ปวดไม่หาย และค่อยๆ ซึมไปเรื่อยๆ อาจเกิดจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • เจ็บหน้าอกมาก เหนื่อยง่าย มีอาการหอบร่วมด้วย อาจเกิดจากเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ที่อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้หัวใจวายได้
  • แน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย อาจเกิดจากอาการปอดอักเสบ ปอดบวม หรือหลอดลมอักเสบ

ดูแลตัวเองยังไง เมื่อติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ?

การดูแลรักษาตัวเอง หรือผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สามารถรักษาตามอาการได้เลย เช่น กินยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ควบคู่ไปกับเช็ดตัว หากมีอาการน้ำมูกไหลและไอ สามารถกินยาแก้แพ้และยาละลายเสมหะได้ และควรพักผ่อนเยอะๆ จนกว่าจะหายเป็นปกติ

แต่ถ้าหากเกิน 3 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูงมากจนเพ้อ หายใจไม่ปกติ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ